วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

สัมพันธ์กันอย่างไร

ในการบรรยายครั้งหนึ่งของ อาจารย์ หลี่ ผู้ก่อตั้ง "ฝ่าหลุนต้าฝ่า" ท่านได้ตอบคำถามของลูกศิษย์ เกี่ยวกับจุดกำเนิดของชีวิตไว้ว่า "ข้าพเจ้าสามารถบอกกับพวกท่านได้ว่า อะไรคือจุดกำเนิดของสรรพสิ่งและชีวิต ที่ดำรงอยู่ในเขตแดนต่างๆในจักรวาลของเรานี้ ที่จริงจุดกำเนิดของสรรพสิ่ง ก็คือน้ำ แต่น้ำที่เป็นจุดกำเนิดของจักรวาลไม่ใช่น้ำบนโลกของเรานี้
"ในระดับชั้นที่ต่างกัน จะมีจุดกำเนิดของสรรพสิ่งที่ต่างกัน, หรือพูดว่าน้ำที่แตกต่างกันเป็นจุดกำเนิดของสรรพสิ่ง ระดับชั้นยิ่งสูง ความหนาแน่นของน้ำ(ที่ระดับนั้น)ยิ่งมาก มันจะก่อรูปเป็นอนุภาคต่างๆ, เป็นน้ำต่างๆ และเป็นชีวิตต่างๆ ในจักรวาลที่ต่างกัน"
"จักรวาลที่เราสามารถเข้าใจได้ประกอบขึ้นมาจากน้ำ" (ปาฐกถาในอเมริกา)
น้ำ, ชีวิต, จักรวาล และคุณสมบัติพิเศษ ความจริง ความเมตตา ความอดทน นั้นความจริงแล้วมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
เพื่อที่จะให้ได้คำตอบที่ดีกว่าสำหรับตนเอง ขอเชิญชวน ด้วยความจริงใจให้ท่านอ่านงานเขียนต่างๆของ "ฝ่าหลุนต้าฝ่า"
ที่มา : http://falunthai.org/pureinsight/pis2002/pis2002-05-03.htm

น้ำแสดงความหมายของคำ

ในช่วงสุดท้ายนี้ขอให้เราเข้าไปสู่โลกอันน่าอัศจรรย์ของภาพผลึกเหล่านี้ที่ได้จากการทดลอง
ในการทดลองเหล่านี้น้ำได้แสดงความหมายของคำว่า "ปัญญา ", "จักรวาล" และ "รัก/กตัญญู" ในแต่ละภาษาคือ ญี่ปุ่น อังกฤษ และเยอรมัน น้ำที่ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นของการทดลองเป็นน้ำที่ผ่านการกลั่นด้วยมาตรฐานเดียวกัน ผลคือผลึกได้ก่อเค้าโครงรูป ที่เหมือนกันออกมาแม้จะแตกต่างกันในภาษา

          
ภาพ D-1                          ภาพ D-2                        ภาพ D-3
ภาพ D-1 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "ปัญญา" ในภาษาญี่ปุ่น
ภาพ D-2 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "ปัญญา" ในภาษาอังกฤษ
ภาพ D-3 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "ปัญญา" ในภาษาเยอรมัน
พวกมันดูค่อนข้างเหมือนกัน ช่องว่างตรงกลางนั้นเหมือนกัน


          
ภาพ D-4                          ภาพ D-5                         ภาพ D-6
ภาพ D-4 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "จักรวาล" ในภาษาญี่ปุ่น
ภาพ D-5 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "จักรวาล" ในภาษาอังกฤษ
ภาพ D-6 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "จักรวาล" ในภาษากรีก

         
ภาพ D-7                         ภาพ D-8                          ภาพ D-9
ภาพ D-7 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "รัก/ขอบคุณ" ในภาษาอังกฤษ
ภาพ D-8 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "รัก/ขอบคุณ" ในภาษาญี่ปุ่น
ภาพ D-9 ภาพผลึกหลังจากอ่านคำว่า "รัก/ขอบคุณ" ในภาษาเยอรมัน
อาจารย์ หลี่ กล่าวใน จ้วน ฝ่า หลุน "ความคิดที่เกิดขึ้นจากสมองมนุษย์นั้นเป็นสสารชนิดหนึ่ง" ท่านชี้อย่างชัดเจนว่า " สื่อข้อมูลที่ส่งออกมาจากสมองมนุษย์ไม่ใช่การทำงานของสมองโดยตัวมันเอง( มันไม่ได้เกิดจากสมอง ) แต่เกิดจากจิตหลัก......ถ้าร่างกายมนุษย์ไม่มีจิตหลัก รวมทั้งสิ่งต่างๆ อาทิเช่น อารมณ์, บุคลิกภาพ และอุปนิสัยแล้ว มันก็เป็นเพียงก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง หาใช่คนที่สมบูรณ์ ด้วยปัจเจกภาพ ดังนั้นแล้วสมองมนุษย์มีหน้าที่อะไร ตามที่เห็นมันในรูปของมิติกายภาพ สมองมนุษย์เป็นเพียงโรงงานแปรรูปโรงหนึ่งเท่านั้น สื่อข้อมูลที่แท้จริงถูกส่งออกมาจากจิตหลัก ซึ่งไม่ใช่ภาษา แต่เป็นสื่อข้อมูลของจักรวาล เป็นตัวแทนความหมายที่แน่นอนอย่างหนึ่ง เมื่อได้รับคำสั่งนั้นแล้ว สมองของเราก็จะจัดการแปรรูปสิ่งเหล่านี้ออกมาเป็นภาษาปัจจุบัน หรือรูปแบบการแสดงออกต่างๆ เช่น การทำท่าทาง, การมอง และการเคลื่อนไหวต่างๆ สมองมีผลเพียงแค่นี้ คำสั่งและความคิดที่แท้จริงมาจากจิตหลักของคน " ผลึกน้ำได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้คำพูดที่เขียนด้วยภาษาที่ต่างกัน แต่สิ่งที่น้ำมองเห็นนั้นเป็นแก่นแท้ของคำนั้นๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งมีชีวิตด้วย และสามารถสะท้อนความหมายของคำนั้นๆออกมาเป็นรูปร่างที่เหมือนกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ดร. อีโมโตะ สรุปรายงานของเขาว่า " การตรวจสอบน้ำโดยการถ่ายภาพผลึกของมันเป็นวิธีการใหม่ ซึ่งมีที่มาจากมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากวิธีการวิเคราะห์และประเมิน ตามแบบแผนทั่วไปของวิทยาศาสตร์ สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการทดลองเหล่านี้คือ เราไม่รู้เรื่องอะไรจริง เกี่ยวกับน้ำเลย มีปัญหาและประเด็นอีกเป็นกองที่เกิดตามมา เรื่องแล้วเรื่องเล่า  ดังนั้นเขาจึงตั้งคำถามว่า "น้ำมาจากจักรวาลใช่หรือไม่?" แล้วเขาก็ตอบตัวเองตรงๆว่า " ขอให้เราเริ่มจากปัญหาเกี่ยวกับน้ำที่ปรากฏอยู่บนโลกเราก่อน ว่าทำไมจึงมีน้ำอยู่ จุดกำเนิดของน้ำมักจะถูกห่อหุ้มอยู่ในความลี้ลับ ในขณะที่วงการอวกาศก้าวรุดหน้าไป มันก็ได้รับการยืนยันว่ามีน้ำอยู่บนดาวอังคาร เราจึงเริ่มเข้าใจว่าน้ำมิได้เป็นสิ่งที่มีอยู่เฉพาะบนโลกเท่านั้น แต่มันดำรงอยู่ทั่วจักรวาล " " ทุกคนทราบว่าชีวิตมิอาจเกิดขึ้นได้ โดยปราศจากน้ำ ถ้าจุดกำเนิดของชีวิตอย่างเช่นน้ำ มาจากจักรวาลแล้วล่ะก็ เราก็สามารถอนุมานได้ว่า ชีวิตมนุษย์ก็น่าจะมาจากนอกพิภพด้วย " ถ้าความเป็นจริงข้อนี้เป็นที่ยอมรับ ทฤษฎีวิวัฒนาการของ ชาร์ล ดาร์วิน, จุดกำเนิดของมนุษย์และทฤษฎีอื่นๆ เกี่ยวกับโลกและความเป็นมาของมนุษย์ ก็จะต้องถูกเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง จักรวาลนั้นยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับมนุษย์ และแก่นแท้ของมันก็มิอาจจินตนาการได้ โดยการวิจัยลึกลงไปเกี่ยวกับเรื่องของน้ำและความเป็นจริงของสสาร เราก็อาจเข้าใจจักรวาลได้มากยิ่งขึ้น

น้ำกับความสำนึกรู้

      อีกการทดลองหนึ่งเกี่ยวกับความสำนึกรู้ ที่ทำกับน้ำประปาที่เก็บมาจากย่านชินนากาว่า เมืองโตเกียว

         ภาพ C-3                               ภาพ C-4
ภาพ C-3  สภาพเดิมของน้ำประปา ก่อนวันที่เราจะเริ่มทดลอง เรื่อง ลมปราณ, จิต และ วิญญาณ แห่งความรัก
ภาพ C-4 ภาพของน้ำนั้นหลังจากได้รับ ลมปราณ, จิต และ วิญญาณแห่งความรัก ที่ส่งมาจากคน 500 คน
          ในการทดลองนี้ ผู้ทดลองได้ส่งจดหมายถึง อาจารย์ที่สำเร็จการศึกษาจาก HADO จำนวน 500 คน จากทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอความร่วมมือจากพวกเขา โดยเขาขอให้พวกเขาส่งความรู้สึกมายังน้ำประปาจาก shinagawa-ku ในถ้วยน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาในสำนักงาน ณ เวลา 2.00 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1997 เพื่อจะทำให้น้ำในถ้วยนั้นสะอาดขึ้น
          ดร. อีโมโตะ รายงานว่า "แน่นอนว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านกายภาพของน้ำแต่อย่างใด เราไม่ได้มีความคาดหวังกับมัน แต่กลับสามารถได้น้ำที่เปลี่ยนอยู่ในสภาพที่สะอาดอย่างชัดเจน ผู้ปฏิบัติงานของเราทั้งหมดแทบจะร้องไห้ออกมา ด้วยความรู้สึกดีใจ เรารู้สึกปิติอย่างลึกซึ้งต่อความร่วมมือที่เราได้รับจากทั่วประเทศญี่ปุ่น เราเริ่มรู้สึกว่า ความคิดของคน สามารถรวมเข้าหากันได้ไม่ว่า พวกเขาจะอยู่ห่างกันเพียงใด โดยวิธีนี้ ผลึกน้ำจึงได้แสดงออกให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์นั้นที่แท้แล้วก็เป็นสสารที่ดำรงอยู่ชนิดหนึ่ง และสสารนี้สามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมของเราได้ด้วย
          แม้ว่าการทดลองเกี่ยวกับ ความรู้สึกนึกคิดนี้ จะมีลักษณะปฏิวัติและใหม่ แต่ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่สมบูรณ์ ในหนังสือ จ้วนฝ่าหลุน อาจารย์ หลี่ ได้อธิบายธรรมชาติของความรู้สึกนึกคิดไว้ดังนี้ " ทุกวันนี้ผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับร่างกายคน ได้ค้นพบว่า การเคลื่อนไหวของจิตใจ หรือความคิดของคนนั้น สามารถก่อเกิดสสารได้ เมื่อมองจากในระดับชั้นสูง เราพบว่า ที่จริงแล้วมันเป็นสสารอย่างหนึ่ง แต่สสารนี้ไม่ได้อยู่ในรูปของคลื่นสมองอย่างที่เราพบในงานวิจัยทุกวันนี้ แต่มันกลับอยู่ในรูปของสมองมนุษย์ที่สมบูรณ์เราอดไม่ได้ที่จะพูดออกนอกเรื่องต่อไปเกี่ยวกับคำอธิบายของอาจารย์ หลี่ ว่า "ในฐานะมนุษย์ คุณจะเป็นคนดีได้ ก็มีแต่ต้องปฏิบัติตามคุณสมบัติพิเศษของจักรวาลนี้ คือ ความจริง ความเมตตา ความอดทน และผู้ที่เบี่ยงเบนออกไปจากคุณสมบัติพิเศษนี้ ก็คือคนเลวที่แท้จริง ข้อธรรมะนี้ฟังดูพื้นๆ แต่ทว่าชัดเจน และไม่ควรมองข้ามอีกต่อไปเช่นเดียวกับภาพผลึกน้ำเหล่านี้ที่แสดงให้เราเห็นแล้ว อันความรัก, ความงาม, ความกตัญญู, ความเข้าใจ, ความกรุณา, ความช่วยเหลือ, ความเห็นอกเห็นใจ, และสิ่งที่คล้ายๆกันนี้ สามารถถูกสร้างขึ้นมาได้จากความเมตตาผลึกน้ำมิได้แสดงให้เห็นแล้วหรือว่า หากเราทำตัวให้สอดคล้องกับ คุณสมบัติพิเศษ ความจริง ความเมตตา ความอดทน แล้วเราจะได้รับความกลมกลืนและความสุขอย่างสูงสุด มิฉะนั้นแล้วเราจะพบกับผลด้านลบ อันได้แก่ความเจ็บปวดและความน่าเกลียดน่าชัง

น้ำมีการแสดงความรู้สึก

    ภาพ C-1              ภาพ C-2
ภาพ C-1 น้ำประปานี้ได้มาจากเมืองโกเบ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ฮันชิน - อวาจิ ได้ไม่นาน
ภาพ C-2 น้ำประปาจากสถานที่เดียวกัน หลังจากนั้น 3 เดือนต่อมา

         ในรายงานของ ดร. อีโมโตะ เขาอธิบายว่า ในวันที่ 17 ม.ค.1995  3 วัน หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ฮันชิน - อวาจิ ในเขตเมืองโกเบ เราได้ถ่ายภาพผลึก ของน้ำที่พบในน้ำประปาเมืองโกเบ(ซึ่งพอจะหาได้ในขณะนั้น) ดูเหมือนว่าน้ำนั้นสามารถจับความรู้สึกกลัว, ตื่นตระหนก, โศกเศร้า และอาดูร อย่างลึกซึ้งของผู้คน ในทันทีหลังเกิดแผ่นดินไหว ผลึกนั้นได้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง มันเป็นภาพที่ทำให้คนรู้สึกขนลุกเลยทีเดียว เราถึงกับรู้สึกว่า เราไม่ควรเผยแพร่การค้นพบความลี้ลับนี้ ต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม 3 เดือนต่อมาความช่วยเหลือ และ ความเห็นอกเห็นใจจากทั่วโลกถูกส่งไปให้ชาวเมืองโกเบ ผลึกนี้ดูเหมือนจะแสดงความรู้สึกอาทรและปรารถนาดีออกมา

ผลึกน้ำมีชีวิตและสามารถแยะแยะความดี-เลวได้

      อีกข้อความหนึ่งใน " จ้วนฝ่าหลุน " จะช่วยทำให้เราเข้าใจ หลักการทั่วไปที่อยู่เบื้องหลังสสารชนิดต่างๆ " แล้วอะไร คือ พุทธธรรม คุณสมบัติพื้นฐานที่สุดของจักรวาลนี้ " ความจริง ความเมตตา ความอดทน คือรูปธรรมระดับสูงสุดที่ปรากฎออกมาของพุทธธรรม มันเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดของพุทธธรรม พุทธธรรมจะแสดงออกมาอย่างแตกต่างกัน ในระดับชั้นที่ต่างกัน และมีบทบาทในการชี้นำในระดับชั้นที่ต่างกัน ระดับชั้นยิ่งต่ำ รูปธรรมที่ปรากฏออกมา ก็ยิ่งมีความสลับซับซ้อน คุณสมบัติพิเศษนี้ ( ความจริง ความเมตตา ความอดทน ) จะมีอยู่ในระดับจุลภาค ของอนุภาคของอากาศ ,ก้อนหิน,ไม้,ดิน,โลหะ ,เหล็ก,ร่างกายมนุษย์ เช่นเดียวกับในสสารทุกชนิด ความจริง ความเมตตา ความอดทน นี้ เป็นมาตรฐานในการวัด ความดี ความเลว ในจักรวาล ไม่ว่ามาตรฐานศีลธรรมของมนุษย์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คุณสมบัติพิเศษนี้ ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และมันเป็นบรรทัดฐานเพียงประการเดียวในการแยะแยะ คนดี กับ คนเลว "
      การทดลองทั้งหมดข้างต้น ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่า " สสารทั้งหมดรวมทั้งผลึกน้ำ มีชีวิต และสามารถแยะแยะความดี-เลว ได้ด้วย "
      IHM ยังได้ทำการทดลองอีกชุดหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าน้ำมีความสามารถในการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของคน และ น้ำก็ยังแปรเปลี่ยนไปตามสิ่งนี้ด้วย ในการรายงานผลการทดลองของเขา ดร.อีโมโตะเขียนไว้ว่า " นอกจากนี้เรายังมีความสนใจอย่างมาก ในการให้น้ำได้สัมผัสกับ ดนตรี ,ภาษา และชื่อ ความพยายามของเราในการให้น้ำได้สัมผัสกับภาษานั้น มีผลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราคาดไว้ ด้วยผลการทดลองเหล่านี้ ทำให้เราสามารถตั้งสมมติฐานได้ว่า สื่อข้อมูลนั้นสามารถส่งต่อได้โดยผ่าน " รูปลักษณ์ " เช่น คำ และ ภาพต่างๆ แม้เรามิได้คาดว่า ผลึกฯจะสามารถแสดงออกซึ่ง การเปลี่ยนแปลงที่มีศิลปะ อย่างชัดเจนเช่นนั้น เรายังได้ตระหนักว่า น้ำสามารถเก็บบันทึกสื่อข้อมูล ต่างๆและส่งต่อได้ มิฉะนั้นเราจะไม่อาจต้านทานการก้าวล่วงไปในเขตแดนของความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ได้เลย เราต้องการค้นหาว่าความคิดของมนุษย์สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดใดได้บ้างตอนนี้ขอให้ผมได้แนะนำ การทดลองเกี่ยวกับ ผลของความรู้สึกนึกคิดของน้ำบ้าง

น้ำที่ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

ภาพ B-5
น้ำที่ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรทัศน์ นาน 4 ชม.
ภาพ B-6
น้ำกลั่นที่ได้รับอิทธิพลจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และมีการ ติดป้ายข้อความว่า " รัก/ กตัญญู " ไว้ข้างขวด
ภาพ B-7
 น้ำกลั่นที่ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
  
 
ภาพ B-8                      ภาพ B-9
ภาพน้ำกลั่นที่ได้ ชมรายการ วิดีโอของ NHK เรื่อง " ชีวิต " ดังภาพ B-9
ผู้แต่งกล่าวไว้ในรายงานว่า " เราพยายามทำการทดลอง บนพื้นฐานความคิดที่ว่า แม้จะให้น้ำชมรายการ จากทีวีเครื่องเดียวกัน แต่เป็นรายการที่ต่างกัน ก็จะได้รับผลต่างกัน ในการทำเช่นนั้น น้ำก็จะปรากฏรูปผลึกที่สวยงามให้เราเห็นได้ แม้จะไม่ได้ติดป้ายคำว่า " รัก/กตัญญู " บนขวดน้ำ หลังจากได้ชมภาพเหล่านี้ มันก็ไม่เป็นการยากสำหรับเรา ที่จะสรุปว่า ไม่ว่าเราจะใช้ตัวอักษร หรือ เพลง หรือรายการทีวี น้ำก็แสดงความสามารถ อันไม่น่าเชื่อของมัน ในการดักจับสื่อข้อมูลที่เหมือนกัน ซึ่งแฝงอยู่เบื้องหลังรูปแบบภายนอก และยังสามารถแยกแยะระดับความดี-เลวได้ด้วย เราจะเข้าใจได้อย่างไร ในความลี้ลับของการทำหน้าที่ด้านจิตวิญญาณของน้ำที่เราทดลองนี้ ข้อความในหนังสือ " จ้วนฝ่าหลุน " ได้บอกความนัยแก่เราอีกครั้งหนึ่งคือ  สสารทุกอย่างในจักรวาล รวมทั้งสสารที่แทรกซึมอยู่ทั่วจักรวาล ล้วนมีชีวิต และ ความคิด จิตใจ และทั้งหมดนั้นคือรูปแบบการดำรงอยู่ในระดับชั้นที่ต่างกัน ของหลักธรรมแห่งจักรวาล ( ฝ่าหลุนต้าฝ่า )  ผลการทดลองนี้มิได้บอกเราอย่างชัดเจนหรือว่า น้ำนั้น มีชีวิต และสามารถแยกแยะดีหรือเลวได้ จิตวิญญาณนี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะน้ำเท่านั้น แต่สามารถพบได้ในสสารอื่นๆ เช่นกัน

น้ำได้เห็นตัวหนังสือ

ต่อไปเราจะดูภาพที่เกิดจาก การให้น้ำได้เห็นตัวหนังสือ บ้าง
ภาพ B-2
 การทดลองให้น้ำเห็นตัวหนังสือ

ภาพ B-3
ภาพนี้ถูกถ่ายไว้หลังจากเขียน คำว่า " รัก/กตัญญู " ให้น้ำได้เห็น ผู้เขียนกล่าวไว้ในรายงานของเขาว่า เราได้ถ่ายภาพไว้มากมายจากตัวอย่างน้ำนี้ แต่นี่เป็นผลึกอันงดงามแรกเริ่มที่สุดที่เราเห็น จริงๆแล้วไม่มีอะไรสำคัญกว่า ความรัก และความกตัญญูในโลกนี้ เพียงการแสดงความรัก และความกตัญญูออกมา น้ำรอบตัวเราและภายในร่างกายของเราก็จะเปลี่ยนอย่างสวยงามมาก เราไม่ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากความรู้นี้ ในชีวิตประจำวันของเราบ้างหรือ
ภาพ B-4
คำที่ใช้แสดงแก่น้ำในภาพ B-4 คือ " แกทำให้ฉันเจ็บ ฉันจะฆ่าแก " ในรายงานกล่าวว่า " คำเหล่านี้เป็นคำที่วัยรุ่นสมัยนี้ชอบพูดกัน " ผลที่ตามมาก็คือรูปของผลึกที่ดูน่าเกลียด ตามที่เราคาดไว้ รูปผลึกนั้นบิดเบี้ยว ระเบิดเข้าข้างใน และกระจัดกระจาย มันเป็นความหมายของคำพูดนั้น ที่สามารถให้เห็นจริงได้เลยทีเดียว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก สำหรับการอยู่ในโลกที่มีการใช้คำพูดลักษณะนี้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเท่ากับเป็นการทำร้ายตนเอง


ทดลองด้วยคำพูดในข้าวสวย


ภาพ B- 1
การทดลองที่ทำโดยมือสมัครเล่นคนหนึ่ง ซึ่งใช้คำพูดว่า " ขอบคุณ " กับ " เจ้าโง่ " พูดกับข้าวสวยในขวดสองใบนี้ทุกวัน การทดลองนี้ทำโดยบรรจุข้าวสวยหุงสุกแล้ว ลงในขวด 2 ใบที่เหมือนกัน แล้วให้เด็กชั้นประถม 2 คน พูดกับข้าวในขวดนี้ทุกวัน ทันทีที่เขากลับมาจากโรงเรียน เป็นเวลาหนึ่งเดือน ผลคือ ข้าวในขวดที่เด็กพูดคำว่า "ขอบคุณ"กับมัน เกือบจะกลายเป็นข้าวหมัก และมีกลิ่นของข้าวมอลต์หมักที่หอมหวาน ในขณะที่ข้าวในขวดที่เด็กพูดว่า"เจ้าโง่" กับมัน กลายเป็นสีดำ และเริ่มบูดเน่า และพวกเขาบอกว่ากลิ่นของมันน่ารังเกียจ เหลือจะกล่าวเลยทีเดียว รายงานนี้ บอกว่า นี่ไม่ใช่การทดลองที่ทำโดยมืออาชีพ ดังนั้นผลที่ได้อาจเป็นไปโดยความบังเอิญ อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายคน ได้ทำการทดลองแบบเดียวกัน และได้ผล ออกมาเหมือนกัน ทว่าของเราที่นี่ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับน้ำ แต่ยังเกี่ยวข้องกับจุลชีพด้วย จุลชีพก็เหมือนกับคนเรา คือมันจะขยันทำงานถ้าได้รับการชมเชย และจะเกียจคร้านถ้าถูกก่อกวน ดูเหมือนว่า การพูดคำว่า " ขอบคุณ " กับ " เจ้าโง่ " เป็นผลให้จุลชีพรวมตัวกันทำประโยชน์ กับ ก่อโทษ ตามลำดับ

ทดลองให้น้ำฟังดนตรี

ภาพ A-8
การทดลองให้น้ำฟังดนตรี

ภาพ A-9
รูปผลึกของน้ำที่เกิดขึ้นหลังจากได้ฟังเพลง " Pastorale " ของ บีโธเฟ่น ซึ่งเป็นเพลงหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก มันเป็นเพลงที่สดใส, แปลกใหม่ และสนุกสนาน รูปผลึกที่สวยงามนี้ สนับสนุนความจริงที่ว่า เพลงที่ดีจะส่งผลด้านบวกต่อน้ำได้

ภาพ A-10
รูปผลึกที่เกิดขึ้น หลังจากได้ฟังเพลงของโชแปง ชื่อ " Farewell Song " ( จำจาก ) ดร.อีโมโตะ แสดงความเห็นในรายงานของเขาว่า " ผมไม่เคยรู้สึกประหลาดใจมาก่อนเลย ต่อเมื่อผมได้เห็นรูปผลึกนี้ " มันมีลักษณะเช่นนี้ เพราะ เป็นผลมาจากเพลง Farewell โดยพื้นฐานของรูปผลึกนี้ มันเกือบจะแยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์ เป็นส่วนเล็กๆ ทั้งๆที่ภาพนี้ถ่ายจากกล้องภายใต้กำลังขยายเท่าๆกับ ที่ใช้กับภาพอื่นๆ มีผลึกรูปร่างต่างๆกันมากมาย ปรากฏออกมาหลังจากที่ได้ฟังเพลงต่างๆ แต่ขอให้เราหยุดอยู่แค่ตัวอย่างเหล่านี้ก่อน ผมคาดว่าใครก็ตามที่ได้เห็นภาพถ่ายเหล่านี้เป็นครั้งแรก ย่อมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกรงขาม ในความสง่างาม ของปรากฏการณ์นี้ เราจะเข้าใจได้อย่างไรในความจริงที่ว่า เพลงต่างกัน ทำให้เกิดผลึกรูปร่างต่างกัน คำตอบที่ตรงเป้าที่สุด อยู่ในหนังสือ " จ้วนฝ่าหลุน ของ อาจารย์ หลี่ หง จื้อ " มีความว่า " ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ที่ว่า สสารกำหนด จิต หรือ จิตกำหนดสสาร นั้นมีการถกเถียงกันเรื่อยมา " ภาพผลึกข้างต้นบ่งชี้ว่า ที่จริง สสาร กับ จิต นั้นเป็นสิ่งเดียวกัน

ตัวอักษรจีน ที่แปลว่า น้ำ

ภาพ A-7 ตัวอักษรจีน ที่แปลว่า น้ำ
รายงานถัดจากภาพนี้ ดร.อีโมโตะ อธิบายว่า ขณะที่ถ่ายภาพผลึกก่อนที่น้ำแข็งจะหลอมละลายเป็นน้ำ มันจะต้องผ่านสถานะแบบหนึ่ง ดังปรากฏในภาพดังกล่าว เมื่อน้ำแข็งตัวมันจะกลายเป็นผลึก ในขณะที่มันจะละลายกลับเป็นน้ำ ( โดยการเพิ่มอุณหภูมิ ระหว่าง -5 ถึง 0 องศาเซลเซียส ) มันจะก่อรูปชนิดหนึ่งขึ้นมา ที่มีลักษณะเหมือนคำว่า" น้ำ " ในภาษาจีน ดังนั้นอาจเป็นได้ว่า คนโบราณรู้จักปรากฏการณ์นี้ และได้บัญญัติอักษรคำว่า " น้ำ " จากพื้นฐานข้อมูลเช่นนี้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก ในการตรวจสอบใหม่เกี่ยวกับสมมติฐาน ความเป็นมาของตัวอักษรจีน

เริ่มต้นความลี้ลับของน้ำ

      ฝ่าหลุนต้าฝ่า การบำเพ็ญปฏิบัติแบบโบราณ สามารถไขปริศนาที่มืดมนในวงการวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ได้
       จ้าว อี้ หง ชาวโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ได้แลกเปลี่ยนทัศนะกับคนอื่น โดยอาศัยรูปภาพจำนวนหนึ่ง มันเป็นภาพที่แสดงความงดงามและความลี้ลับของรูปผลึกของน้ำ ซึ่งอธิบายให้เราทราบว่า " ฝ่าหลุนต้าฝ่า คือ วิทยาศาสตร์ที่แท้จริง " ภาพเหล่านี้ และคำอธิบาย ถูกนำมาจากหนังสือ ชื่อ " ข่าวสารจากน้ำ 1,2 " และ " น้ำ คือ ผู้รู้คำตอบ " โดยได้รับอนุญาตจากผู้ประพันธ์ คือ ดร. มาซารึ อีโมโตะ ประธานสมาพันธ์ฮาโดะนานาชาติ ( International Hado Membership : IHM )
                            
ภาพ A-1   
ภาพ A-2  

ภาพ A-3
 ภาพ A-4   

ภาพ A-5, A-6
       IHM ได้ทำการทดลองที่น่าทึ่งจำนวนหนึ่งเกี่ยวข้องกับรูปผลึกของน้ำ วิธีการทดลองนี้ สามารถเห็นได้จากภาพ A-3, A-4 น้ำที่ใช้ในการทดลอง ถูกหยดลงในจานแก้ววิทยาศาสตร์ จำนวน 100 ใบ แล้วเก็บในตู้แช่แข็ง ดังภาพ A-1 เป็นเวลา 2 ชม. ผลึกของน้ำที่เกิดขึ้นในจานแก้วถูกนำมาส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบฉากมืด ( dark field ) และใช้กำลังขยาย 200-500 เท่าในการส่องดู ( ภาพ A-5 , A-6 ) ต่อไปขอเรียกผลึกของน้ำ เพียงสั้นๆว่า ผลึก






ความลี้ลับของ...

ความลี้ลับของน้ำ
หลายๆคน คงเคยคิดว่าน้ำก็คือน้ำ ที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์   มีลักษณะเป็นของเหลวมีสีใส ไม่มีรสชาติหรืออื่นๆ หากได้ลองอ่านบนความต่อจากนี้ คุณอาจจะมีทัศนะที่เปลี่ยนไปจากเดิมได้

วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2555

30 08 2555 ยังคงมองไปทั่วทิศรอบๆห้อง

วันที่ 30  สิงหาคม 2555
วันพฤหัส(ไม่)สบดี
Zzz….
ตี 4 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลับต่อ
ตี 5 กับอีก 30 นาที กริ่งงงงง ๆๆ นาฬิกาปลุก  นั่งซึมเศร้าเป็นหมาหงอย
5.49 น. ลืมตาดูโลกที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่เช่นเคย แล้วก็ อาบน้ำไปโรงเรียน
6.31 น. รถรับหน้าบ้าน
7.23 น. ถึงโรงเรียนรีบสแกนลายนิ้วมือ.....
นั่งปั่นงาน
8.20 น. คาบแรก คาบสอง ดาราศาสตร์ กับครูแจ๊ก
10.00 น. คาบสาม สี่ นั่งจนก้นออกราก เรียนคณิต
11.35 น. กินข้าวแล้ว เย้ เ
12.10 น. อังกฤษเพิ่มเติม
12.55 น. ประวัติศาสตร์
13.40 น. แนะแนว 55 ครูไม่อยู่
14.25 น. เรียนอังกฤษ กะ ครูพรฯ
15.15 น. วิ่ง ซ้อมสี
16.00 น. เหมือนทุกวัน เลิกแล้ว
16.02 น. เจอเพื่อนนั่งเมาท์มอย เรื่องงชาวบ้าน
16.32 น. กลับบ้าน
17.55 น. ถึงบ้าน หาของกินยัดลงท้อง ด้วยความหิวข้าวและตะกละ ติดคอ อ่ะ ย้อเย่นน่า 55
18.06 น. เล่นกีตารืแปบหนึ่ง
19.35 น. นอนหน่อยน่า
20.52 น. แม่เรียก อาบน้ำ กินข้าว ดูกัปตันชอ่ง 3 จนจบและ ทำบล็อกบันทึกประจำวัน
22.46 น. ทำการบ้านอื่นๆเยอะแยะ และฟังเพลง
...................................................................
ยังคงลืมตามองทั่วทิศไปรอบห้อง

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เที่ยงคืนสิบห้านาที ณ วันที่ 29/08/2555

วันที่ 29  สิงหาคม 2555
ขณะนี้เวลา  เที่ยงคืนสิบห้านาที ตอนนี้กำลังซบหมอนอันนุ่มนวล
ตี 5  กับอีก 30 นาที กริ่งงงงง ๆๆ นาฬิกาปลุก ตื่นๆๆ ลุกขึ้นมาปิดแล้วหลับต่อ 
6 โมง ฮือ... รีบๆๆ  อาบน้ำ แต่งตัว
6.30 น. จอดหน้าบ้าน รถรับ-ส่ง
7.25 น. ซ้อมแสดงงานภาษาไทย
8.20 น. คาบแรก วิชา เคมี  (ยากแท้แรงดึงดูดระหว่างโมเลกุล)
ฮือ ๆๆ ร้องไห้พึ่งรู้ตัวว่าลืมสแกนลายนิ้วมือ
9.05 น.คาบสองอังกฤษ ครูพรฯ
9.55 น. คาบ 3 คณิต เรื่องเนี๊ย ระบบจำนวนจริง
10.50 น. ไทยๆๆ
โอ้ยๆๆ หิวข้าว  12.10น.  เลิกเรียนภาษาไทย
12.55 น. เรียนชีวะ คาบ 7 เย้ ตรูไม่อยู่นั่งปั่นงาน
13.45 น. เรียนคอม สร้าง บล็อกๆๆ
15.10 น. เลิกเรียนคอม ไปวิ่งต่อ  เหนื่อยจังตังอยู่ครบ!!
16.00น. แอ้ด ประตูโรงเรียนจงเปิด
16.25 น. กลับบ้าน (รถรับ-ส่ง)
ง่วงจัง งีบแปบหนึ่งนะ
5.30 น. ถึงบ้าน เย้ หลับต่อๆๆ ขัดจังหวะ
20.23น. ตื่นนอนตอนเย็น อาบน้ำกินข้าว แปลงฟันดูทีวี ทำการบ้านหลากหลายวิชา มีให้โดยไม่ต้องเลือก เพราะมีทุกวิชา ทำบล็อกบันทึกประจำวัน
23.35 นอนฟังวิทยุ
ณ เวลา .... หลับไปวิทยุกล่อมไป   Zzzz

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

28 08 2555 เมื่อร่างกายอ่อนล้า

วันที่ 28  สิงหาคม 2555
วันอังคาร หึๆๆ
ตี1 ยังคงทำการบ้าน  และแล้วก้อดทนไม่นอนไม่ได้นาน หลับดีฟ่า
ตี 5 กับอีก 30 นาที กริ่งงงงง ๆๆ นาฬิกาปลุก อยากหลับอ่ะขอนอนต่ออีกนานนิดหนึ่งนะ
หลับต่อไปและแล้ว ที่
5.58 น. ก็พาให้กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง หว้า อาบน้ำไปโรงเรียน
6.37 น. รถรับหน้าบ้าน
7.28 น. ถึงโรงเรียนรีบสแกนลายนิ้วมือ เสร็จ
จากนั้นรีบปั่นงาน เร็วๆ เอ้า เร็วๆ (ทำเป็นกิจวัตรแทบประจำวัน)
8.20 น. คาบแรก ดาราศาสตร์ กับครูแจ๊ก
9.05 น. คาบสอง เรียนคณิต
10.00 น. คาบสาม 55 เรียนกับอาจารย์ฝรั่ง 
10.50น. นั่งทำการบ้าน ชิลๆ ในคาบครูโม
11.35 น. กินข้าวแล้ว เย้ เตรียมซื้อลูกอมตุน
12.10 น. คาบ 6, 7 เรียนฟิสิกส์
13.40 น. เรียนสุขะ
14.25 น. สังคม สอบ!!!
15.15 น. วิ่ง ซ้อมสี
16.00 น. เลิกแล้ว ดีใจจัง
16.25 น. กลับบ้าน
17.48 น. ถึงบ้าน หาของกิน หิวข้าว
18.06 น. นอนอุตุด้วยคว่ามเคยชิน
21.24 น. อาบน้ำ กินข้าว และ ทำบล็อกบันทึกประจำวัน
22.06 น. ทำการบ้านอื่นๆมากใย สารพัด และที่ขาดไม่ได้ ฟังเพลง
...................................................................
23.38 น. หลับล่ะ
หลับพอกันที แต่โชคดีไม่ได้ปล่อยให้เพลงกล่อมหลับอีก อย่างที่เคยเป็น